งูจงอาง งูบองหลา (ภาคใต้)
King Cobra
Ophiophagus hannah, Cantor
อยู่ในวง Elapidae มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกยาว 4.50 เมตร (หัว 95 มม. ตัว 3,785 มม. หาง 620 ม.ม.) เคยพบยาวถึง 5 เมตร เป็นงูที่มีหัวมนโต เกล็ดบนหัวใหญ่ ตัวยาว หางเรียว นิสัยดุ ปราดเปรียว โดยเฉพาะเมื่อเป็นงูวัยรุ่นขนาดยาวประมาณ 1,500-2,500 ม.ม.จะว่องไวมาก แต่เมื่อมีขนาดโตมากขึ้นจะเชื่องช้าและความดุลดลง งูจงอางยกหัวชูคอแผ่แม่เบี้ยได้ประมาณ 1 ใน 3 ส่วนของความยาวลำตัวทั้งหมด แม่เบี้ยจะแผ่ได้แคบกว่างูเห่าเมื่อเทียบตามส่วนมีเขี้ยวพิษสั้นและผนึกแน่นในลักษณะ Proteroglypha เป็นงูป่าโดยเฉพาะชอบอาศัยในป่าทึบ ป่าชายเลน อาจเลื้อยเข้ามาหากินตามไร่ชายป่าบ้าง รู้จักทำรังวางไข่และกกฟักไข่ ออกไข่ครั้งละ 20-35 ฟอง ปกติจะเที่ยวออกหากินตามที่ร่ม ไม่ร้อนจัดในเวลากลางวันจนถึงพลบค่ำ ชอบกินงูชนิดอื่นที่มีขนาดเล็กกว่า ตะกวด หนู
งูจงอางพบทุกภาคของไทยเว้นในย่านตัวเมือง งูจงอางที่อาศัยทาง ภาคใต้ชาวบ้านเรียกว่า งูบองหลา จะมีขนาดใหญ่กว่าที่พบในภาคอื่น ๆ มีสีเขียวอมเทา ลายตามตัวและส่วนหางไม่เข้มชัดเจน งูจงอางที่อาศัยอยู่บริเวณ ภาคกลางเช่น บริเวณป่าชายเลนสมุทรสาครจะมีสีสดใสกว่า บางตัวสีเขียวอม สีเหลืองส้มลายขวั้นตามตัว และลายดำที่ส่วนหางเข้มชัดเจน งูจงอางที่อยู่ภาค เหนือ เช่น ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนจะมีขนาดเล็กกว่าที่พบทุกภาค มักมีสีเขียวอม ดำคลํ้า ปล้องสีดำที่หางใหญ่ ลูกงูจงอางตัวเล็ก ๆ ที่เพิ่งออกจากไข่จะมีสีดำ ลายขาว และจะเปลี่ยนสีเหมือนงูที่โตแล้ว เมื่อมีความยาวประมาณ 800-1,000 ม.ม.ในระยะผสมพันธุ์งูจงอางตัวผู้จะมีสีส้มที่ใต้คาง
นอกจากในประเทศไทย ยังพบงูจงอางในอินเดีย พม่า จีนตอนใต้ อินโดจีนและมาเลเซีย เคยมีบันทึกว่าพบในฟิลิปปินส์ด้วย
พิษงูจงอาง ส่วนใหญ่มีผลต่อระบบประสาทเป็น neurotoxin เหมือนงูเห่า แต่ปริมาณน้ำพิษมีมากกว่า เพราะตัวโตต่อมพิษใหญ่ ความรุน
แรงต่อผู้ป่วยจึงมากกว่าถูกงูเห่ากัด ถ้าเทียบจำนวนหยดหรือ ม.ล.ระหว่างพิษ
งูจงอางและพิษงูเห่า พิษงูเห่ามีความรุนแรงมากกว่า
อาการและอาการแสดง เหมือนถูกงูเห่ากัด แต่อาการเกิดเร็วกว่า หยุดหายใจถึงแก่ความตายได้ใน 2-3 นาที ถึงหกชั่วโมง ผู้ป่วยที่ถูกงูจงอางที่นำมาเลี้ยงไว้ในเมืองกัดหรือกัดผ่านกางเกงผ้าที่หนา กัดไม่ถนัด อาการแสดงทั่วไปอาจไม่รุนแรงมาก
การรักษา ให้เซรุ่มแก้พิษงูจงอางจำนวนมากติดต่อกันในครั้งแรก เฝ้าดูเรื่องการหายใจ และอัมพาตของกล้ามเนื้อเกี่ยวกับการกลืน ขา แขน ให้เซรุ่มจนอาการดังกล่าวหายไปบางรายให้เซรุ่มขนาดมากในครั้งแรก ผู้ป่วยดีขึ้น ผู้รักษาคิดว่าให้เซรุ่มพอแล้ว แต่อาการอัมพาตของกล้ามเนื้อ เกี่ยวกับการกลืน หายใจและศูนย์หายใจกลับเป็นใหม่ และเลวลงรวดเร็ว ฉะนั้นแพทย์ต้องเฝ้าดูใกล้ชิดมีเซรุ่มเตรียมพร้อมจำนวนมากพอ
การรักษาแผลและการรักษาอย่างอื่นเหมือนกับรักษาผู้ป่วยถูกงูเห่ากัด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น